ข้อควรระวังในการฉีดโบท็อก สำหรับคนที่กำลังจะตัดสินใจฉีดโบท็อกครั้งแรก คงมีคำถามและข้อสงสัยมากมายว่า โบท็อกช่วยเรื่องอะไร โบท็อกกี่วันถึงเห็นผล แล้วอยู่ได้นานแค่ไหน โบท็อกแต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร โบท็อกของแท้ดูอย่างไร การดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังฉีดโบท็อกต้องทำอย่างไรบ้าง รวมไปถึงข้อควรระวัง ความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้หลังจากการฉีดโบท็อก ฯลฯ หากคุณกำลังกังวลใจกับเรื่องเหล่านี้ วันนี้เราจะพามาเจาะลึกทุกข้อสงสับเกี่ยวกับโบท็อก ที่นี่ที่เดียว! อยากสวยแต่ไม่อยากพลาด ต้องอ่าน!!
โบท็อก ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
โบท็อก Botulinum toxin A มีคุณสมบัติมากมาย ดังนี้
- ลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง
- ลดขนาดกรามให้ใบหน้าดูเรียวเล็กขึ้น
- ลดขนาดน่องให้ขาเรียวยาวสวย
- ลดขนาดปีกจมูกให้เล็กลงเห็นสันแกนจมูกชัดเจนขึ้น
- คลายขนาดกล้ามเนื้อที่หดตัวให้เรียบตึงขึ้น
- รอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา หางตา ระหว่างคิ้ว
- ผิวหนังบริเวณคอ มือ ที่เหี่ยวย่น โบท็อกซ์ช่วยให้ใบหน้ากลับมาเรียบเนียนและดูเด็กขึ้น
- ลิฟท์กรอบหน้า
- ยกกระชับใบหน้า ไม่ให้หย่อนคล้อย
- ช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น
- ฉีดใต้วงแขน รักแร้
- ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง
- ระงับกลิ่นกายได้อีกด้วย
- รักษาโรคไมเกรนเรื้อรัง
- ระงับอาการปวดให้น้อยลง
- ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการผ่อนคลาย
- รักษาอาการตากระตุก
- ทำให้กล้ามเนื้อหยุดทำงานชั่วขณะ ช่วยลดอาการตากระตุกได้
ฉีดโบท็อก กี่วันถึงจะเห็นผล ?
- โบท็อก ลดริ้วรอย จะเห็นผลลัพธ์ที่ 2 สัปดาห์ โดยหลังฉีดไป 3 วันจะเริ่มรู้สึกตึงบริเวณที่ฉีด
- โบท็อก ลดกราม ลดน่อง จะเห็นผลลัพธ์ที่ 1 เดือน โดยจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในสัปดาห์ที่ 2 ขึ้นอยู่กับกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล
- โบท็อกรักแร้ ลดกลิ่นกาย จะเห็นผลลัพธ์ที่ 1 เดือน
ฉีดโบท็อก อยู่ได้นานแค่ไหน ?
ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกจะไม่ได้อยู่อย่างถาวร ซึ่งปกติแล้วโบท็อกจะอยู่ได้นาน 4-8 เดือน โดยการออกฤทธิ์ของโบท็อกนั้น ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้
- ยี่ห้อของโบท็อกที่ฉีด หากเลือกโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์สูง จะอยู่ในร่างกายได้นานกว่า เพราะร่างกายจะทำลายโปรตีนที่จับกับโบท็อก โดยโบท็อกที่มีโปรตีนมากกว่าจะถูกทำลายได้ง่ายกว่าโบท็อกที่มีโปรตีนสูง
- ตำแหน่งที่ฉีด กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามเนื้อมาก ดังนั้นกล้ามเนื้อจึงกลับมาใช้งานได้เร็ว ระยะเวลาที่โบท็อกออกฤทธิ์จึงสั้นกว่า กล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น กราม หน้าผาก หางตา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณโบท็อกที่ใช้ ซึ่งต้องอยู่ในการประเมินโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์
หลายคนจะมีความกังวลใจว่าเมื่อโบท็อกหมดฤทธิ์จะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาใหญ่กว่าเดิมหรือไม่ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะโบท็อกทำให้กล้ามเนื้อมัดที่ฉีดไปทำงานลดลง ขนาดกล้ามเนื้อจึงเล็กลง เมื่อหมดฤทธิ์กล้ามเนื้อก็จะกลับมาทำงานเพิ่มขึ้น ขนาดกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากใช้งานมากก็มีโอกาสสูงที่มัดกล้ามเนื้อจะมีขนาดกลับมาเท่าเดิม
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนฉีดโบท็อก
- ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องการอาการฟกช้ำ
- งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
- สุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
- ควรแจ้งให้แพทย์ผู้ฉีดทราบถึงปัญหาที่กังวลและสิ่งที่ต้องการในแต่ละส่วนอย่างชัดเจนก่อนฉีด เนื่องจากความต้องการที่ต่างกันไปตามแต่ละบุคคล เช่น บางท่านชอบให้ตึงมาก ๆ แต่บางท่านอาจชอบให้ดูเป็นธรรมชาติ แตกต่างกันไป
- หากเป็นไปได้ในวันฉีดควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนพบแพทย์
ดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก ให้ความสวยอยู่กับเราไปนาน ๆ
- หลังฉีดโบท็อกซ์งดนอนราบ เป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการไหลของโบท็อกซ์
- งดการนวดกดจุดบริเวณที่ฉีด เป็นเวลา 1 เดือน
- หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดโดนความร้อนเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าเกิดอาการ Fushing เช่น ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ออกกำลังกายอย่างหนัก, อบซาวน่า, แช่น้ำอุ่น เนื่องจากความร้อนจะสลายตัวยาให้หมดสภาพเร็วขึ้น
- กรณีฉีดโบท็อกบริเวณกราม หลังฉีดให้เคี้ยวหมากฝรั่ง 2 ข้างเท่า ๆ กัน โดยการสลับซ้ายขวา เป็นเวลา 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดได้ดียิ่งขึ้น
- หลังฉีดโบท็อกได้ประมาณ 4 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ โดยจะมีรอยแดงจากเข็มและรอยนูนจากการฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายในเวลา 1 – 2 ชั่วโมงหลังฉีด
- งดการทำทรีทเม้นท์ด้วยเครื่อง RF หรือเลเซอร์ 2 สัปดาห์ แต่สามารถทาครีมไม่ตามปกติ
ข้อควรระวังในการฉีดโบท็อกซ์
ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำสวยได้ด้วยการฉีดโบท็อก ซึ่งบุคคลไม่สามารถฉีดโบท็อกได้ ดังนี้
- ผู้ที่มีอาการแพ้สาร Botulinum
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
- ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงรุนแรง
- ผู้ที่เป็นโรคเลือดออกแล้วหยุดยาก